F053HS Himalayan Pink salt (fine) : เกลือหิมาลัย เกลือชมพู (ละเอียด)
CAS Number : | 7647-14-5 |
Appearance : | Light Pink |
Assay : | 100 % |
Mesh size : | 20-50 mesh |
รายละเอียดทั่วไป
เกลือหิมาลัย หรือ หิมาลายัน เป็นเกลือสีชมพู มาจากเทือกเขาหิมาลัย ประเทศปากีสถาน สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมายหลากหลายเพื่อสุขภาพที่ดี
เกลือหิมาลัย หรือ เกลือหิมาลายัน (เกลือสีชมพู) ที่มีแหล่งต้นกำเนิดจากเทือกเขาหิมาลัยในประเทศปากีสถาน ซึ่งกว่าจะได้มานั้นต้องผ่านการระเหยของน้ำทะเลเป็นเวลากว่า 250 ล้านปีก่อน จนกลายเป็นผลึกเกลือสีชมพูที่ประกอบด้วยแร่ธาตุถึง 84 ชนิด ส่งผลให้เกลือเป็นสีชมพูนั่นเอง ด้วยความพิเศษนี้เอง จึงเป็นเกลือที่ได้รับการยกย่องว่ามีประโยชน์สูงสุด และบริสุทธิ์ที่สุดในโลก คือประโยชน์ด้านสุขภาพร่างกาย เพราะเกลือหิมาลายันประกอบด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายถึง 84 ชนิด มีคุณสมบัติช่วยละลายและขจัดโลหะหนักออกจากร่างกายและกำจัดเชื้อโรคในอากาศทำให้เรานอนหลับสบาย และยังใช้ในกลุ่มความสวยความงามอีกด้วย นิยมใช้เกลือหิมาลายันในการทำสปาไม่ว่าจะเป็นการขัดผิวกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย รวมถึงช่วยแก้ปัญหาโรคผิวหนังต่างๆ ได้ด้วยการแช่ตัวในน้ำเกลือ ร่างกายจะขับสารพิษออกมาทำให้รู้สึกผ่อนคลาย บรรเทาอาการเหนื่อยเมื่อยล้า ลดปัญหาสิว ผดผื่น ทำให้ผิวชุ่มชื่นดูมีออร่าอีกด้วยคะ
ประวัติความเป็นมาของเกลือหิมาลัยสีชมพู
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วประวัติความเป็นมาของเกลือหิมาลัยสีชมพูเป็นเรื่องที่ยาวมากย้อนหลังไปถึงการสร้างของโลก เกลือหิมาลัยมาจาก Salt Range ซึ่งเป็นระบบเขาในจังหวัด Punjab ของประเทศปากีสถาน จะได้รับชื่อจากฝากหินเกลือ ธรณีวิทยามีความสนใจเป็นพิเศษในเทือกเขาเกลือเนื่องจากมีลำดับธรณีวิทยาที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกด้วยโขดหินที่ปะปนอยู่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ Cambrian Times (ประมาณ 540 ล้านปีมาแล้ว) จนถึงยุค Pleistocene (ประมาณ 2.6 ล้านถึง 11,700 ปีก่อน) Salt Range มีการกล่าวกันว่าไม่มีใครแตะต้องมานานนับล้านปีจนกระทั่งปีพศ. 1849 นั่นคือเมื่อดร. Warth ซึ่งเป็นวิศวกรเหมืองแร่ของอังกฤษได้ช่วยออกแบบและสร้างอุโมงค์เข้าไปในเกลือเพื่อที่จะเข้าถึงแหล่งเกลือ วิธีการทำเหมืองแร่ “เสาและห้อง” ของเขาเป็นเทคนิคที่ยังใช้กันอยู่ในปัจจุบันซึ่งต้องใช้การกำจัดเกลือครึ่งหนึ่งในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งถูกทิ้งไว้เบื้องหลังการสนับสนุนโครงสร้างของเหมือง ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ตอนนี้เหมืองเกลือมีพื้นที่ประมาณ 43 ตารางไมล์และอุโมงค์ประมาณครึ่งไมล์ขึ้นไปบนภูเขา เกลือที่ยังคงอยู่ในภูมิภาคนี้คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 80 ล้านตันถึง 600 ล้านตัน หินเกลือหิมาลัยสีชมพูนี้อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่เป็นประโยชน์มากกว่า 80 ชนิด อาทิเช่น ไอโอดีน , โซเดียมคลอไรด์ ,ซัลเฟต แมคนีเซียม, แคลเซียม ,โพแทสเซียม ,ไบคาร์บอเนต โบรไมด์ ,โบเรต , สตรอนเทียม และฟลูโอไรด์ เรียงตามลำดับสัดส่วน
การนำเกลือมาใช้ในการรักษาโรคมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น การเข้าถ้ำเกลือ การสูดไอเกลือ การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ การดื่มน้ำเกลือ การแปรงฟันด้วยเกลือ การล้างแผลด้วยน้ำเกลือ การอาบน้ำแร่ การขัดผิวด้วยเกลือ การใช้เกลือดับกลิ่นจะสังเกตุได้ว่าทุกครั้งจะต้องมีเกลือเป็นตัวยาหลัก และยิ่งถ้าเป็นเกลือที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุยิ่งมีคุณประโยชน์มากมาย
ประโยชน์ด้านต่างๆ
- ใช้แปรงฟัน และบ้วนปากป้องกันโรคเหงือกได้
- แช่ตัวด้วยน้ำเกลือหิมาลายัน 30 นาที เทียบเท่ากับการขับสารพิษต่อเนื่อง 3 วัน ช่วยปรับสภาวะความเป็นกรด ด่าง ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่น กระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิตในร่างกาย ทำให้ระบบเลือดลมดี บรรเทาอาการผดผื่นคัน สิว ปัญหาด้านผิวหนัง
- แช่เท้า พลังงานไอออนจากเกลือจะช่วยเร่งประสิทธิภาพในการ detox ของเสียต่างๆ ที่รวมอยู่ที่เท้าออก
- ช่วยบำบัดโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ โดยการสูดไอเกลือ
- ใช้ล้างและขัดเครื่องประดับและอัญมณีให้แวววาว
- ใช้ปรุงอาหารหรือผสมในเครื่องดื่มต่างๆ เพื่อเพิ่มแร่ธาตุและความสดชื่นให้แก่ร่างกาย ทำให้ผิวพรรณผ่องใส เปล่งปลั่ง และยังช่วยป้องกันโรคคอหอยพอก โรคท้องผูก และช่วยลดกรดไหลย้อนจากการปรับสมดุลของค่า pH ได้อีกด้วย
- ใช้เกลือหมัก ล้างเมือก ล้างคาวปลา หรือเนื้อสัตว์ โดยช่วยถนอมอาหารและคงรสชาติเดิมไว้
- อุ่นเกลือให้ร้อนเพื่อให้แทนลูกประคบแก้ปวดเมื่อย หรือปวดท้องได้
- ช่วยลดอาการทั่วไปของริ้วรอย
- กระตุ้นระดับ น้ำตาลในเลือด ให้ แข็งแรง
- การส่งเสริมการสร้างพลังงานของเซลล์
- ลดตะคริว (เช่นปวดขา)
- ปรับปรุงการดูดซึมสารอาหารจากอาหาร
- ช่วยดูแลสุขภาพหลอดเลือด
- การปรับปรุงความแข็งแรงของกระดูก
- ช่วยดูแลโรคผิวหนังต่างๆ โดยการดึงความสะอาดจากภายในสู่ภายนอกผิวพรรณ
ข้อมูลสินค้า
ชื่อทั่วไป : Himalayan Pink salt (fine)
แหล่งผลิตสินค้า : ปากีสถาน